สิงคโปร์ – 31 สิงหาคม 2558 – ซัมซุงนำนวัตกรรมพลิกโฉมการอยู่อาศัย แนะนำ “ซัมซุง สมาร์ท โฮม” ทำงานผ่านแพลตฟอร์ม Internet of Things ที่อุปกรณ์ทุกอย่างจะเชื่อมต่อกันไร้สายผ่านอินเทอร์เน็ต ชูจุดเด่นช่วยดูแลผู้อยู่อาศัยด้านความสะดวกสบาย ความปลอดภัย และด้านสุขภาพ เตรียมรุกตลาดทั่วโลก ในไทยประเดิมด้วยตลาดอสังหาริมทรัพย์ พร้อมรุกตลาดรีเทลปีหน้า
นายมณฑล มังกรกาญจน์ ผู้อำนวยการ ธุรกิจลูกค้าองค์กร บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า “ซัมซุง สมาร์ท โฮม จะยกระดับการใช้ชีวิตในบ้านให้เป็นมากกว่าแค่ที่พักอาศัย แต่เป็นบ้านที่จะดูแลทุกคนในครอบครัวทั้งในด้านความสะดวกสบาย ความปลอดภัย และสุขภาพ ตามแนวคิด “Home that cares for you” โดยใช้หลักการทำงานบน Internet of Things – IoT หรือแพลตฟอร์มการทำงานเชื่อมต่อกันระหว่างดีไวซ์ต่างๆ แบบไร้สายผ่านอินเทอร์เน็ต อุปกรณ์ทุกอย่างรอบตัวเราจะ “always on” และ “always connected” มีการสื่อสารระหว่างเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ชนิดต่างๆ เพื่อทำงานตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย ซึ่งแตกต่างจาก โฮม ออโตเมชั่น ที่การทำงานของอุปกรณ์ต่างๆ นั้น มนุษย์จะต้องเป็นผู้สั่ง แต่ซัมซุงสมาร์ท โฮม คือการพัฒนาไปอีกขั้นด้วยความสามารถในการออกแบบฟังก์ชั่นการทำงานต่างๆ ของผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยรายบุคคลเพื่ออำนวยความสะดวก เพิ่มความปลอดภัย อีกทั้งยังช่วยดูแลสุขภาพ โดยซัมซุงเป็นแบรนด์เดียวที่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าครบทุกหมวด ซึ่งนับได้ว่าจะเป็นการปฏิวัติไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยไปอย่างสิ้นเชิง”
มร.โจ ชาน รองประธาน ธุรกิจลูกค้าองค์กร บริษัท ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด Regional Head Office (ซ้าย) คุณมณฑล มังกรกาญจน์ ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจลูกค้าองค์กร บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด (ขวา) |
อุปกรณ์ต่างๆ ในซัมซุง สมาร์ท โฮมจะถูกเชื่อมต่อผ่านซัมซุง สมาร์ท ฮับ (Samsung Smart Hub) ที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการป้อนและรับส่งคำสั่งต่างๆ ไปสู่เครื่องใช้ไฟฟ้ากลุ่มสมาร์ทของซัมซุง เช่น สมาร์ท ทีวี (Smart TV) ฯลฯ เป็นการเชื่อมต่อระหว่างเครื่องใช้ไฟฟ้าและดีไวซ์ต่างๆ ที่สามารถแบ่งปันข้อมูลผู้ใช้งานเพื่อนำไปประมวลผล สามารถติดตั้งได้ง่ายและไม่ต้องเดินสายไฟ ช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่าย ซึ่งคำสั่งต่างๆ จะถูกส่งผ่านจากสมาร์ท แอพพลิเคชั่น (Smart Application) ในสมาร์ทดีไวซ์ตรงไปยังเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ต่างๆ ที่มีตัวเชื่อมสัญญาณ (Communication Portal) นอกจากนี้ยังมีสมาร์ท ปลั๊ก (Smart Plug) ที่นำมาติดตั้งเพิ่มกับเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไป เพื่อเพิ่มความสามารถให้อุปกรณ์เครื่องนั้นๆ สามารถนำมาใช้งานร่วมกับระบบได้อีกด้วย
“ซัมซุง สมาร์ท โฮม” ตั้งอยู่ ณ โครงการต้นแบบที่อยู่อาศัยของหน่วยงานหนึ่งในประเทศสิงคโปร์ เป็นโชว์เคสที่สมบูรณ์แบบที่สุดในเอเชีย ซึ่งจำลองที่อยู่อาศัยจริงของชาวสิงคโปร์ เป็นอพาร์ทเมนท์ขนาด 3 ห้องนอน ซึ่งประกอบไปด้วยห้องนอนพ่อแม่ ห้องนอนลูก และห้องนอนผู้สูงอายุ ห้องนั่งเล่นและรับประทานอาหาร ห้องน้ำ และห้องครัว แสดงให้เห็นวิถีชีวิตของคนยุคใหม่ โดยเฉพาะสังคมเมืองที่เต็มไปด้วยความเร่งรีบ เช่น ประเทศสิงคโปร์ ที่ปัจจุบันไม่มีเวลาดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน แต่ก็ไม่สามารถจ้างคนมาดูแลพิเศษได้ เพราะค่าใช้จ่ายแพงมาก หลายบ้านต้องให้ผู้สูงอายุและเด็กอยู่กันลำพัง ซัมซุง สมาร์ท โฮมจะช่วยเป็นหูเป็นตา และคอยระแวดระวังภัยให้ ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรมการส่งสัญญาณแจ้งเตือน เมื่อผู้สูงอายุหกล้มและหมดสติ ระบบความปลอดภัยและการเตือนสำหรับการเปิด-ปิดประตูแม้แต่หน้าต่าง หรือการคอนโทรลระบบไฟฟ้าต่างๆ ในห้องนอนเด็ก โดยโชว์เคส “ซัมซุง สมาร์ท โฮม” แสดงให้เห็นถึงโซลูชันในด้านต่างๆ ได้แก่
ซัมซุง สมาร์ท โฮมช่วยให้ผู้อยู่อาศัยในบ้านสะดวกสบายและประหยัดเวลา อาทิ ช่วยประหยัดพลังงาน ปิดไฟและเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ เมื่อออกจากบ้าน หรือตั้งค่าให้ทำงานระหว่างที่ไม่อยู่บ้าน เช่น เครื่องดูดฝุ่นอัจฉริยะทำงานตามเวลาและจะกลับไปที่ฐานก่อนเวลากลับบ้าน เครื่องซักผ้าทำงานใกล้เวลากลับบ้านพร้อมให้นำขึ้นตากทันทีเมื่อถึงบ้าน หรือสามารถตั้งอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศให้เหมาะสมกับความชอบรายบุคคล ซัมซุง สมาร์ท โฮม ยังสามารถเพิ่มความสะดวกให้กับไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยยุคใหม่ เช่น เมื่อตื่นนอน ไฟจะค่อยๆ เปิดขึ้น ม่านจะค่อยๆ เปิดอัตโนมัติ เครื่องชงกาแฟเปิดและอุ่นพร้อมสำหรับการดื่มกาแฟ
ด้านความปลอดภัย
ซัมซุง สมาร์ท โฮมสามารถตั้งค่าการปิดเปิดประตูชั้นต่างๆ ของบ้านได้ หรือสั่งปิดเปิดประตูจากสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต ระบบความปลอดภัยที่ช่วยตรวจตราจากการเคลื่อนไหว หากพบความผิดปกติจะส่งภาพมายังสมาร์ท ทีวีทันที หรือการตั้งเตือนต่างๆ อาทิ ลืมปิดหน้าต่าง ลืมปิดตู้เย็น ตั้งเตือนเมื่อมีการเปิดเตาแก๊สหุงต้ม การเตือนระบบน้ำรั่วซึม เป็นต้น
ซัมซุง สมาร์ท โฮมยังช่วยดูแลด้านสุขภาพของคนในบ้านโดยเฉพาะผู้สูงอายุด้วยระบบเออร์ลี่ เซนส์ (Early Sense) ที่สามารถวัดจัดหวะการเต้นของหัวใจ ความสม่ำเสมอในการหายใจและการเคลื่อนไหวระหว่างนอนหลับ ระบบตรวจจับการล้มของผู้สูงอายุที่จะส่งสัญญาณไปขอความช่วยเหลืออัตโนมัติถ้าผู้สูงอายุไม่ตอบสนองภายในระยะเวลาที่กำหนดหรือแม้แต่ไฟทางเดินที่จะเปิดอัตโนมัติเมื่อผู้สูงอายุลุกออกจากเตียง
“ปัจจุบัน ซัมซุง สมาร์ท โฮมมีการทำตลาดรีเทลแล้วที่สหรัฐอเมริกา และอังกฤษ ที่มีการจำหน่ายสินค้าสมาร์ท โฮมของซัมซุงให้ผู้บริโภคสามารถซื้อมาติดตั้งเองได้ที่บ้าน ส่วนที่สิงคโปร์และไทยอยู่ระหว่างการเริ่มต้น โดยซัมซุงมองว่าสมาร์ท โฮม เป็นนวัตกรรมที่มีแนวโน้มขยายตัวในทุกตลาด โดยเฉพาะในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งในเมืองไทยล่าสุดซัมซุงจับมือกับบริษัท อนันดา ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) พัฒนาซัมซุง สมาร์ท โฮม เพื่อนำมาใช้ในโครงการที่อยู่อาศัยของอนันดา โดยจะประเดิมเปิดตัวโครงการแรกที่ ‘คิว เทอร์ตี้ วัน (Q31)’ ส่วนตลาดค้าปลีกในเมืองไทย ซัมซุงคาดว่าจะเริ่มทำตลาดได้ในปี 2559 ขณะนี้อยู่ในช่วงของการให้ความรู้ สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับซัมซุง สมาร์ท โฮมให้กับองค์กรลูกค้าเป้าหมาย เพื่อออกแบบสมาร์ท โฮมให้เหมาะกับ ไลฟ์สไตล์ของกลุ่มผู้อยู่อาศัย ในส่วนของผู้บริโภคเอง ซัมซุงต้องสร้างการรับรู้และให้ความรู้ว่าซัมซุง สมาร์ท โฮม จะมาพลิกโฉมวิถีชีวิตและการอยู่อาศัยของคนไทยและช่วยให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น สะดวกสบายขึ้นได้อย่างไรบ้าง” นายมณฑลกล่าวสรุป
#SamsungSmartHome #SmartThings
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ GM2000Magazine